วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2561

สายรัดข้อมือเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อดูแลสุขภาพ (11)

สายรัดข้อมือเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อดูแลสุขภาพ





ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์มากมายต่างพยายามพัฒนาเครื่องมือที่ประยุกต์ความรู้ทาง ด้านคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม มาสนองตอบชีวิตประจำวันของมนุษย์ที่ต้องรับมือกับความเสี่ยงต่างๆจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ส่งผลต่อสุขภาพ ล่าสุด ทีมวิศวกรจากมหาวิทยาลัยรัสเกอร์ส เมืองนิวบรันสวิก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในสหรัฐอเมริกา เผยถึงการพัฒนาสร้างสายรัดข้อมือที่ช่วยติดตามสุขภาพและมลพิษในอากาศที่คนเราต้องเผชิญ
สายรัดข้อมืออัจฉริยะนี้ใช้วัสดุเป็นพลาสติกติดตั้งแผงวงจรที่มีความยืดหยุ่น โดยมีไบโอเซนเซอร์ (biosensor) เครื่องตรวจวัดทางชีวภาพ ออกแบบให้มีลักษณะเป็นช่องหรือท่อบางกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผม พร้อมกับฝังขั้วไฟฟ้าสีทองไว้ภายใน แผงวงจรจะเป็นตัวประมวลผลสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งข้อมูลแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ เช่น นาฬิกา โดยไบโอเซนเซอร์จะทำหน้าที่นับจำนวนอนุภาคอย่างเซลล์เม็ดเลือด แบคทีเรียและอนุภาคอินทรีย์หรืออนินทรีย์ในอากาศ รวมถึงวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การออกกำลังกาย
เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้ผู้ป่วยและแพทย์สามารถติดตามตรวจสอบสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การวินิจฉัยโรคจากการนับจำนวนเม็ดเลือด ซึ่งหากพบจำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำ นั่นอาจบ่งบอกถึงภาวะเลือดออกภายในและโรคภัยอื่นๆ หรือจำนวนเม็ดเลือดขาวที่สูงหรือต่ำจนผิดปกติ ก็อาจบ่งชี้ถึงโรค มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพงและมีขนาดใหญ่ในห้องปฏิบัติ
-สรุป-
ทีมวิศวกรจากมหาวิทยาลัยรัสเกอร์ส เมืองนิวบรันสวิก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในสหรัฐอเมริกา เผยถึงการพัฒนาสร้างสายรัดข้อมือที่ช่วยติดตามสุขภาพและมลพิษในอากาศ สายรัดข้อมืออัจฉริยะนี้ใช้วัสดุเป็นพลาสติกติดตั้งแผงวงจรที่มีความยืดหยุ่น โดยมีไบโอเซนเซอร์ (biosensor) เครื่องตรวจวัดทางชีวภาพ ออกแบบให้มีลักษณะเป็นช่องหรือท่อบางกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผม พร้อมกับฝังขั้วไฟฟ้าสีทองไว้ภายใน แผงวงจรจะเป็นตัวประมวลผลสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งข้อมูลแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ เช่น นาฬิกา
-วิเคราะห์-
สายรัดข้อมือนี้จะเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่อาจรักษาสุขภาพ ทำให้สามารถรู้รายละเอียดของสุขภาพตัวเองได้มากขึ้น และแก้ปัญหาสุขภาพได้อย่างตรงจุดและถูกวิธี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น